นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้ค้าคู่ค้า | supamitr hospital
top of page

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ค้าคู่ค้าและผู้รับเหมา

placeholder.png

1. วัตถุประสงค์

บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของคู่ค้า ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และใช้งานโดยสุจริต และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จึงได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมกันเรียกว่า “การประมวลผล) ตลอดจนการลบ การทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัทฯ


2. คำนิยาม

          2.1 บริษัทฯ หมายถึง บริษัท โรงพยาบาลศุภมิตร  จำกัด (มหาชน)
          2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ได้แก่ ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เพศ อาชีพ วันเกิด สถานภาพสมรส สัญชาติ ข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ ไลน์ไอดี รูปภาพ ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน ทะเบียนรถ เป็นต้น
          2.3 ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับ
เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
          2.4 คู่ค้า หมายถึง บุคคล/นิติบุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการ หรือรับจ้างทำของให้แก่ บริษัทฯ ไม่ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้ากับ บริษัทฯ หรือไม่ เช่น ผู้ขาย ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่าง บริษัทฯ กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลอื่นที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่ บริษัทฯ ด้วย


3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม

โดยทั่วไปแล้ว ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทต้นสังกัดของท่าน พนักงาน เลขานุการหรือผู้ประสานงานแทนของท่าน หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น 
        ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้  
3.1  ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
       (1)    ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย เลขประจำตัวใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  ข้อมูลใบอนุญาตขับรถยนต์  เป็นต้น
        (2)    ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญชีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID ข้อมูลเลขานุการ เป็นต้น
        (3)    ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น 
        (4)    ข้อมูลการติดต่อกับ บริษัทฯ (Communication Data) เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ที่ติดต่อกับ บริษัทฯ ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับ บริษัทฯ  เป็นต้น
        (5)    ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือหน่วยงานที่ทำงาน เช่น บริษัทที่ทำงานหรือหน่วยงานต้นสังกัด สถานที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เป็นต้น
        (6)    ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่าง ๆ เป็นต้น
        (7)    การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV 
        (8)    ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมระหว่าง บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม รวมถึงข้อมูลการเข้าร่วมการอบรม สัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่น ๆ ที่ บริษัทฯ จัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และหรือเสียงระหว่างการประชุม อบรม สัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว 
        (9)    ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน
        (10)    ประวัติการร่วมกิจกรรม หรือโครงการต่าง ๆ กับ บริษัทฯ
        (11)    ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
3.2  ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
          โดยทั่วไปแล้ว บริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ    ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
        นอกจากนี้หาก บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
•    ข้อมูลชีวภาพ เช่น ระบบการจดจำใบหน้า ระบบการจดจำเสียง และลายนิ้วมือ
•    ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และหรือความพิการ
(3)    ข้อมูลผลการตรวจสารเสพติดในร่างกาย

4. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลล

4.1    เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น 
•    การขึ้นทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ 
•    การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า, การคัดเลือกคู่ค้า 
•    การจัดเตรียมข้อมูลก่อนเข้าสู่กระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสืบและจัดทำราคากลาง, การระบุชื่อและรายละเอียดของคู่ค้าในระบบภายในของบริษัท เป็นต้น  การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา  ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
•    การเสนอราคา การเจรจาต่อรอง 

เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น 
•    การขึ้นทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ 
•    การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า, การคัดเลือกคู่ค้า 
•    การจัดเตรียมข้อมูลก่อนเข้าสู่กระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสืบและจัดทำราคากลาง, การระบุชื่อและรายละเอียดของคู่ค้าในระบบภายในของบริษัท เป็นต้น  การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา  ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
•    การเสนอราคา การเจรจาต่อรอง ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย


4.2    เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้า เช่น
•    การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
•    การดำเนินการตามกฎ ระเบียบ และกระบวนการภายในต่าง ๆ ของ บริษัทฯ
•    การพิจารณา จั
ดทำ และลงนามในสัญญาทางการค้า 
•    การปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย สัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่น ๆ การชำระราคา การจัดส่ง-รับส่งสินค้า รวมถึงกระบวนการขอและพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัทซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหรือผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ 
•    การส่งมอบงาน การตรวจสอบและตรวจรับงานตามสัญญาระหว่าง บริษัทหาญและผู้รับจ้างบริการ การบริหารพัสดุและสินค้าเชิงพาณิชย์ การออกหนังสือรับรองผลงาน จนแล้วเสร็จ การปฏิบัติตามสัญญา /ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย


4.3    เพื่อการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น ติดต่อ นัดพบ เข้าพบ ประชุม ร่วมพบปะพูดคุยทางธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และโครงการต่าง ๆ  รวมถึงการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อดังกล่าว ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย


4.4    เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม เช่น กฎหมายเกี่ยวกับจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ    การปฏิบัติตามกฎหมาย


4.5    เพื่อการสืบสวน สอบสวนเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร การป้องกันการทุจริต หรือการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด รวมทั้งการตรวจสอบและจัดการข้อร้องเรียนและข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทฯ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความโปร่งใสและความยุติธรรมกับทุกฝ่าย    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย


4.6    เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารสำนักงาน คลังสินค้า ของบริษัทฯ หรือของลูกค้า รวมถึงการแลกบัตรก่อนเข้าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย


4.7    เพื่อปรับปรุงพัฒนาการให้บริการของคู่ค้ากับบริษัทฯ เช่น การทำแบบสอบถามความพึงพอใจ แจ้งผลการประเมินผู้ขาย    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

        กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive data)  ในกรณีนี้ บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
          ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือ
การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (ตามแต่กรณี)

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลภายนอก เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคล หรือนิติบุคคล  ดังต่อไปนี้
          5.1 หน่วยงานภายในบริษัท เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
เช่น ฝ่ายขาย บริการ วิศวกรรมโครงการ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) บริหารอาคาร บัญชี การเงิน ผู้บริหาร เป็นต้น
          5.2 ลูกค้า  กรณีที่ต้องแจ้งชื่อผู้ให้บริการขนส่งและทะเบียนรถ ในการเข้าส่งสินค้า/ให้บริการ ในนามตัวแทนของบริษัทฯ
          5.3 ประกันภัย ในการส่งเรื่องทำประกันคุ้มครองที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประกันขนส่ง ประกันการติดตั้ง
          5.4  หน่วยงานราชการที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย อาทิ กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฯลฯ

6.    ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น

เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ โดยบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลดังกล่าวของท่านเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ปีที่เกิดรายการ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัทฯ

          ทั้งนี้ บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

7.   สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

          สิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้กับบริษัทฯ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท
         7.1 สิทธิในการเข้าถึง “เจ้าของข้อมูล” มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูล หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย  เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะอนุญาตให้กระทำได้
          7.2 สิทธิในการรับ/โอนย้าย “เจ้าของข้อมูล” มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปให้ตนเอง รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่ง/โอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ภายใต้ข้อกำหนดทางกฎหมาย
          7.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล  “เจ้าของข้อมูล” มีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวมรวบ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ข้อ 4
          7.4 สิทธิในการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
          7.5 สิทธิในการแก้ไข  “เจ้าของข้อมูล” มีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
          7.6 สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูล ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้องขอใช้สิทธิแก้ไขหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีอื่นใด แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทน
         7.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม ที่ให้ไว้กับบริษัทเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ตลอดเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่เป็นประโยชน์กับท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อท่าน โปรดศึกษาหรือสอบถามถึงผลกระทบก่อนการถอนความยินยอมเพื่อประโยชน์ของท่าน
          การใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามสัญญา

 

8.    การทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ อาจทบทวนปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว

เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้หากมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข บริษัทฯ จะประกาศแจ้งให้ทราบผ่านทางเว็ปไซต์ https://www.supamitrhospital.com  และ/หรือช่องทางอื่นที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนนโยบายนี้เป็นครั้งคราว

9.    ช่องทางติดต่อบริษัท และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หาก “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” มีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือประสงค์จะใช้สิทธิของท่าน หรือร้องเรียนหากพบการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 
          หาก “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ประสงค์จะใช้สิทธิของท่าน จะต้องเขียน “คำร้องขอข้อมูลส่วนบุคคล” พร้อมเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วน  บริษัทฯ จะดำเนินการต่อคำร้องโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ไม่เกิน 30 วันนับตั้งแต่วันที่รับคำร้อง
ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล สอบถามหรือใช้สิทธิใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
           ไปรษณีย์: บริษัท รพ.ศุภมิตร จำกัด (มหาชน) จำกัด
                             เลขที่ 76 ถนนเณรแก้ว ตำบนท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
            อีเมล: DPO@supamitrhospital.com
            โทรศัพท์: 035-523777 ต่อ 2441
            เว็บไซต์: https://www.supamitrhospital.com/
             จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

bottom of page